เรื่องที่ 1 ความมีวินัยในตนเอง

เรื่องที่ 1

ความมีวันียเกิดจากการเรียนรู้ และปฎิบัติตนให้สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ของสังคม การสร้างความมีวินัยในตนเอง จึงควรเริ่มจากการทราบความสำคัญ ประโยชน์และลักษรธของผู้มีวินัย เพื่อนำไปสู่การปฎิบัติที่ถูกต้อง

  1. ความสำคัญและประโยชน์ของการมีวินัยในตนเอง วินัย คือสิ่งที่เราต้องปฎิบัติทุกวันไม่ว่าจะชอบหรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายต่างๆที่ตนเองและสังคมต้องการ ดังนั้น วินัยจึงมีความสำคัญและประโยชน์ ดังนี้

  1. ความสำคัญของวินัย
    1. เป็นเครื่องมือในการสร้างความสำเร็จในชีวิต
    2. เป็นเครื่องมือในการควบคุมสังคม ให้เป็นระเบียบ ซึ่งช่วยให้ประเทศพัฒนาได้ง่ายและรวดเร็ว
    3. เป็นคุณธรรมพื้นฐานที่ทำให้เกิดคุณธรรมข้ออื่นๆ

  1. ประโยชน์ของวินัย
    1. ทำให้อยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุข
    2. ทำให้สังคมและประเทศชาติสงบสุขและเจริญก้าวหน้า
    3. ทำให้มีผู้รักใคร่เอ็นดู คอยให้การสนับสนุน และให้ความเชื่อถือ ซึ่งจะนำพาสู่ความสำเร็จในทุกด้าน

  1. คุณลักษณะของผู้มีระเบียบวินัย บุคคลผู้ได้ชื่อว่ามีวินัยในตนเองนั้น จำเป็นต้องมีคุณลักษณะสำคัญในหลายด้าน ดังนี้







  1. ซื่อสัตย์สุจริต
    1. ตั้งใจทำหน้าที่การงานด้วยความทุ่มเท
    2. เสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
    3. รักษาวาจาสัตย์
    4. จริงใจต่อบุคคลรอบข้าง
    5. ละอายต่อการกระทำชั่วทั้งปวง

  1. ขยันหมั่นเพียร
    1. ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน
    2. ช่วยเหลืองานครอบครัว
    3. ตั้งใจปฎิบัติหน้าที่ของตน
    4. ใช้เวลาว่างหาความรู้เพิ่มเติม
    5. ยึดหลักอิทธิบาท 4 ในการดำเนินชีวิต

  1. อดทน
    1. ข่มใจจากกิเลส สิ่งยั่วยุทั้งหลาย
    2. ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆ
    3. ใช้ปัญญาและเหตุผลในการแก้ปัญหา
    4. มองโลกในแง่ดี
    5. หลีกเลี่ยงและปฎิเสธให้เป็น

  1. ใฝ่หาความรู้
    1. ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน
    2. เข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาทักษะความรู้
    3. ใช้เวลาว่างค้นคว้าหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ เช่น อินเทอรืเนต สารคดี เป็นต้น
    4. รู้จักวิเคราะห์ สังเคราะห์ และแยกแยะสิ่งที่ได้ดู อ่าน ฟัง หรือสัมผัสมา

  1. ตั้งใจปฎิบัติหน้าที่
    1. รู้จักวางแผนและแบ่งเวลาเป็น
    2. รับผิดชอบในสิ่งที่ทำให้สำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ ไม่ผลัดวันประกันพรุ่ง
    3. ขยัน รอบคอบ และอดทน
    4. ทุ่มเทให้กับสิ่งที่ทำ ไม่เถลไถล
    5. มองว่าอุปสรรคคือบทพิสูจน์ตัวตน ไม่ท้อถอยหรือยอมแพ้สิ่งใดง่ายๆ

  1. ยอมรับผลของการกระทำ
    1. ภูมิใจในผลงานที่ตนคิดว่าทำดีที่สุดแล้ว
    2. รับผิดชอบในสิ่งที่กระทำ
    3. ไม่ปฎิเสธความจริง และเหตุผล
    4. เปิดใจรับทุกคำแนะนำ หรือคำติชม
    5. นำประสบการณ์หรือความผิดพลาดมาใช้ปรับปรุงและพัฒนางานครั้งต่อไป

3การเเก้ปัญหา่ความขัดเเย้ง

การแก้ปัญหาความขัดแย้ง

วิธีแก้ปัญหาความขัดแย้ง 
ความขัดแย้งคือความรู้สึกของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ที่มีความคิดเห็นหรือความเข้าใจว่าเป้าหมายหรือผลประโยชน์ของตนเองนั้นถูกขัดขวางสกัดกั้นหรือไม่ลงรอยกัน
Incompatible  Goal ) กับบุคคลหรือกลุ่มบุคคลอื่น เมื่อความขัดแย้งเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระดับบุคคล  องค์กร สังคมหรือระดับประเทศในเกือบทุกหนทุกแห่งได้ใช้สันติวิธีเข้าช่วยคลี่คลายความขัดแย้งมากกว่าการใช้ความรุนแรง เพราะการใช้ความรุนแรงก็เหมือนกับเรากำลังล่อเลี้ยงความโกรธ ความเกลียดความทุกข์ร้อนของทุกฝ่าย สะสมเป็นพลังดันที่แรงขึ้นเรื่อยๆจนนำไปสู่การใช้ความรุนแรงโต้ตอบในที่สุด
                และปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียนก็เช่นเดียวกัน เมื่อเกิดความขัดแย้งขึ้นมาไม่ว่าจะ
เป็นความขัดแย้งระหว่างนักเรียนด้วยกันเอง  นักเรียนกับคุณครู  คุณครูกับคุณครูหรือคุณครูกับผู้ปกครอง
ทางโรงเรียนมีวิธีการหรือกระบวนการคลี่คลายความขัดแย้งโดยใช้หลักการประนีประนอม
 Compromise )โดยเริ่มตั้งแต่
1.วิเคราะห์สาเหตุของความขัดแย้งที่เกิดขึ้นโดยบุคคลกลาง (ครู, นักเรียน, ผู้ปกครอง) เป็นคนที่ช่วยคลี่คลายความขัดแย้ง
2. บุคคลกลางหรือผู้ที่ช่วยคลี่คลายความขัดแย้ง เป็นผู้พูดคุยกับทั้ง 2 ฝ่ายถึงสาเหตุทีละคน เพื่อจะได้ เรียนรู้ถึงความเหมือนและความแตกต่างของความรู้สึกนึกคิดของแต่ละคน
        3. บุคคลกลางก็จะคิดพิจารณาถึงลักษณะของข้อขัดแย้ง  สาเหตุของความขัดแย้งเกิดจากอะไร
       4. เมื่อทราบสาเหตุที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งแล้ว  ก็จะเรียกบุคคลทั้ง 2 ฝ่ายมาพูดคุยพร้อมกัน โดยบุคคล 
         กลางจะเป็นผู้พูดชี้ให้เห็นถึงสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นและผลที่จะได้รับเมื่อเกิดความขัดแย้ง 
       5. ให้ทั้ง 2 ฝ่ายพูดคุยปรับความเข้าใจกัน ใส่ใจรับฟังกันอย่างมีสติ  อดทน ระมัดระวังเรื่องอารมณ์
        ความรู้สึก หรืออาจจะเป็นการเจรจาต่อรอง และสามารถตกลงกันได้โดยการพบกันครึ่งทาง เพื่อให้ได้
         ข้อยุติของปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นโดยต้องสร้างบรรยากาศให้เกิดความรู้สึกเป็นกันเองและฉันท์มิตร
                  นอกจากการแก้ปัญหาด้วยวิธีการประนีประนอมแล้ว ยังมีวิธีการต่างๆมาจัดการกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นโดยจำแนกตามพฤติกรรมเป็นสำคัญซึ่งได้แก่
1.การหลีกเลี่ยง Avoidance ) เป็นการหลบเลี่ยงปัญหา พยายามให้ตนเองหนีไปจากเหตุการณ์ที่เป็นปัญหาขัดแย้ง โดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับฝ่ายตรงข้ามที่จะนำข้อโต้แย้งมาหาตน โดยอาจจะเปลี่ยนประเด็นการสนทนา วิธีนี้จะใช้ได้ดีสำหรับประเด็นที่ไม่ค่อยสำคัญนัก
2. การปรองดอง ( Accommodation )   เป็นวิธีการแก้ปัญหาโดยการยอมเสียสละความต้องการของตนเองเพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามบรรลุความต้องการของตนเอง ซึ่งทำให้บรรเทาความขัดแย้งได้ในเวลาอันรวดเร็ว เพราะคู่กรณีที่ได้รับประโยชน์เกิดความพึงพอใจและยุติข้อขัดแย้ง แต่อีกฝ่ายที่เสียประโยชน์ก็จะรอวันที่แก้แค้น


3. การแข่งขัน ( Competition )เป็นการใช้วิธีเอาแพ้เอาชนะ อาจจะต้องใช้อำนาจหรือแสดงความก้าวร้าวรุนแรงเมื่อมีสิ่งกีดขวางมิให้บรรลุเป้าหมาย  จึงใช้วิธีการที่อาจจะต้องทำลายอีกฝ่ายหนึ่ง เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนเองหวังไว้  วิธีการแก้ปัญหาความขัดแย้งวิธีนี้ใช้ได้ผลเมื่อทั้ง 2 ฝ่ายมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันเพียงเวลาสั้นๆ และไม่มีความจำเป็นต้องรักษาสัมพันธภาพในระยะยาว 
           การแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยวิธีการพบหน้ากัน เจรจาและทำความตกลงร่วมกันจะมีประสิทธิภาพมากแค่ไหน แต่วิธีนี้จะใช้ได้ผลเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับความสามารถและความชำนาญของผู้เกี่ยวข้องที่จะต้องสร้างทักษะที่จำเป็นในการแก้ไขความขัดแย้ง ดังนี้ ความสามารถในการพิจารณาลักษณะของข้อขัดแย้ง,การจำแนกประเด็นของข้อขัดแย้ง,การเริ่มต้นเจรจาแก้ไขข้อขัดแย้ง,การรับฟัง,การให้เหตุผลและใช้เหตุผล,การรู้จักปฏิกิริยาทางอารมณ์ของผู้อื่นและรู้จักควบคุมอารมณ์ของตนเอง
ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นไม่ได้มีผลเสียแต่อย่างเดียว  หากพิจารณาให้ถี่ถ้วนแล้วจะพบว่าความขัดแย้งก็มีด้านผลดีที่เป็นประโยชน์หลายด้าน เช่น
1.ทำให้องค์กรไม่หยุดนิ่ง
2.ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มจะทำให้สมาชิกในกลุ่มมีความสามัคคี เกิดความกลมเกลียวกัน
3. ทำให้เกิดความคิดแปลกใหม่

ความคิดเห็น

  1. Play Slots Online | DrMCD
    A classic 전라남도 출장마사지 gaming experience is at your fingertips and at your titanium tubing fingertips. The possibilities 동해 출장샵 are endless. 공주 출장샵 From penny 제주 출장안마 slots to penny table games, a Las Vegas casino

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เรื่องที่ 2 การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และการพึ่งพาอาศัยกัน

เรื่องที่ 1 ความหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรม ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เรื่องที่ 2 การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และการพึ่งพาอาศัยกัน